การได้รับประทานอาหารกับครอบครัวในช่วงเทศกาลต่างๆ อย่างสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านมาก็เป็นความสุขใกล้ตัวที่หาได้ง่าย อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามเหมือนกันนะคะ ในฉบับนี้เราจึงอยากนำเคล็ดลับดีๆ ในการสร้างบรรยากาศด้วยแสงในห้องอาหารมาฝากกันค่ะ
บริเวณโต๊ะรับประทานอาหาร ควรมีดวงโคมส่องสว่าง เพื่อให้ผู้รับประทานได้สัมผัสรูปลักษณ์ของความพิถีพิถันในการปรุงอาหาร และโดยส่วนใหญ่นิยมตกแต่งบรรยากาศของห้องในโทนอบอุ่น ซึ่งอาจเป็น สีโอโรส เหลือง หรือส้ม เป็นต้น
การเลือกตกแต่งด้วยหลอดไฟก็นิยมใช้โทนแสงของหลอดไฟเป็น วอร์มไวท์ (W/W)
ส่วนจุดเด่นที่ช่วยเสริมให้ห้องนี้ แลดูมีความแตกต่างกัน ตามสไตล์ของแต่ละคน คือการเลือกโคมตกแต่งห้องอาหารที่สอดคล้องกับสไตล์การตกแต่งโดยรวม นอกจากนี้โคมไฟที่ใช้ตกแต่งบริเวณโต๊ะอาหาร ยังช่วยเพิ่ม เสน่ห์และเติมเต็มให้กับห้องได้มีจุดเด่นน่าสนใจอีกด้วย
ส่วนการตกแต่ง เพื่อเน้นมิติของแสง-เงา ทำได้ง่ายๆ โดยใช้ไฟช่วยเน้นจุดสำคัญ (Accent Light) อย่างเช่น เช่น ไฟส่องรูปภาพ ไฟตกแต่งซ่อนภายในตู้โชว์ หรือโคมไฟตั้งพื้น เป็นต้น
การจัดแสงสว่าง
โคมไฟดวงใหญ่ที่แขวนไว้เหนือโต๊ะอาหาร นอกจากจะเป็นเครื่องประดับที่ดีแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการจัดความสว่างบนโต๊ะอาหารอีกด้วย แต่ต้องคำนึงถึงระยะ และตำแหน่งของดวงโคมด้วยว่า ควรอยู่ตำแหน่งใดถึงจะเหมาะสมทั้งความสว่างกับความงาม มีข้อสังเกตง่ายๆ คือ ตำแหน่งที่เหมาะสม จะไม่เกิดเงาของดวงโคมไฟ และจะต้องไม่เห็นหลอดไฟ โดยตรงที่ระดับเดียวกับสายตาเมื่อนั่งทานอาหาร (เพราะจะทำให้แสงเข้าตา ทำให้แสบตาได้) นอกจากนี้แสงที่แตกต่างกัน ก็ทำให้บรรยากาศของห้องแตกต่างกันด้วย กล่าวคือ แสงในเวลาเช้า ก็ให้ความรู้สึกสบายๆ ส่วนแสงในวันกลางวันก็จะสร้างให้เกิดความรู้สึกที่ จ้าและกระด้างกว่า แต่เราสามารถปรับแสงภายในให้ นุ่มนวลได้ด้วยการเพิ่มโคมตั้งพื้นในมุมห้องอาหารก็ทำให้บรรยากาศนุ่มและมีมิติเพิ่มขึ้น(แสงจากโคมไฟตั้งพื้นจะช่วยให้เกิดเงาของเครื่องเรือนไม่เข้มและตัดตรงจนเกินไป) และติดตั้งผ้าม่านโปรงแสงก็จะช่วยลดความจ้าและกระด้างของแสงแดดได้เช่นกัน หากคุณชอบแสงธรรมชาติลักษณะนี้ ห้องอาหารคุณควรจัดวางให้อยู่ใกล้กับประตูหน้าต่าง เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องสว่างถึง